ทั้ง 11 ข้อคือสิ่งที่ต้องศึกษาก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ควรใช้เวลาในการตระเตรียมข้อมูลและสัมภาระที่จำเป็นให้พร้อมก่อนออกเดินทางสักประมาณสาม-สี่เดือน เพื่อความรอบคอบและไม่ประมาท จะได้เที่ยวกันอย่างสบายใจไร้ปัญหา. สภาพภูมิอากาศที่ประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างหลากหลาย เช่น เกาะฮอกไกโด ในช่วงฤดูหนาวนั้นอากาศหนาวมาก แต่เมื่อฤดูร้อนมาเยือนอากาศก็ร้อนอบอ้าว และมีคลื่นความร้อนสูงถึง 30 องศาเซลเซียส ขณะที่แผ่นดินใหญ่ในช่วงฤดูร้อน อุณหภูมิสูงประมาณ องศาเซลเซียส แต่ในช่วงต้นของฤดูร้อนกลับมีฝนตกลงมาก่อน มีลมพัดแรง ฝนตกหนักมากถึงระดับไต้ฝุ่นเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงฤดูร้อน ดังนั้น ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นต้องตรวจสอบสภาพอากาศได้ดี ๆ ก่อน จะได้เตรียมเสื้อผ้าไปให้เหมาะสม. โดยคุณสามารถแลกเงินได้ที่ Exchange booth ของธนาคารต่าง ๆ ที่สนามบินและที่ทำการไปรษณีย์ และต้องพกพาสปอร์ตไปด้วยทุกครั้งที่ต้องการแลกเงิน ถ้าคุณถือบัตร Visa จะสะดวกมากขึ้นเมื่อมาที่ธนาคาร Sumitomo แต่เป็นธนาคารที่ตั้งอยู่เฉพาะเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น เขตนอกเมืองไม่มีให้บริการ คุณสามารถใช้บัตร Visa และ MasterCard เพื่อถอนเงินที่ไปรษณีย์และตู้ ATM หน้า 7-11. ก่อนออกเดินทางต้องตรวจดูความเรียบร้อยให้ดีก่อน ในเรื่องของระยะเวลาที่อยู่ในญี่ปุ่นได้ และควรถ่ายเอกสารหน้า พาสปอร์ตเอาไว้ด้วย เพื่อมันหายจะมีข้อมูลสำคัญอยู่.
แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นเมืองที่สะอาดและมีระบบการรักษาความปลอดภัยสูง แต่ก็ควรทำประกันภัยเดินทางด้วย นอกจากนี้ ในฤดูร้อนและใบไม้ผลิจะเป็นช่วงที่ยุงชุมมาก อาจจะป่วยเป็นโรคมาลาเรียได้ ดังนั้น ควรเตรียมสเปรย์/ครีมกันยุงมาด้วย เพราะในญี่ปุ่นยังไม่มียาสำหรับกินเพื่อบรรเทาอาการได้ จึงควรป้องกันไม่ให้เป็นตั้งแต่แรกจะดีที่สุด ส่วนในเรื่องของอาหารและเครื่องดื่มต้องระวัดระวังเรื่องความสะอาดด้วย หรือแม้แต่การทานอาหารดิบ มันจะส่งผลให้ท้องเสียได้. มีการใช้คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งานหรือให้บริการเว็บไซต์ รวมทั้งมีการใช้คุกกี้อื่น (อาทิ คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ คุกกี้เพื่อวิเคราะห์การประเมินผลใช้งานและการโฆษณา) เพื่อช่วยปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือการให้บริการเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น โดยหากท่านคลิก “ยอมรับการใช้งานคุกกี้ทุกประเภท” ถือว่าท่านยอมรับการใช้งานคุกกี้อื่นนอกจากคุกกี้ที่จำเป็นด้วย ซึ่งท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้เพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ของ ธปท. นำท่านเดินทางท่องเที่ยว ชม ผามันซาโมะ ผาหินที่สูงกว่า 30 เมตรมีลักษณะคล้ายงวงช้างหันหน้าสู่ทะเลจีน พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่ติดอันดับ 1 ใน three ของประเทศญี่ปุ่น ชม ปราสาทชูริ (ด้านนอก) ปราสาทตามแบบสถาปัตยกรรมของชาวริวกิว ชม ถ้ำธารมรกตเกียวคุเซ็นโด ถ้ำหินงอก และหินย้อยสวยงาม ยาวกว่า 700 เมตร ศูนย์การค้าอุมิคะจิ เทอเรส ศูนย์ก…
นาคาเมะกุโระ (Nakameguro) ประดับไฟเป็นถ้ำสีฟ้าตลอดสองข้างทางของแม่น้ำ Meguro เป็นระยะทางกว่า 1 กม .
นำท่านเดินทางท่องเที่ยวญี่ปุ่น พาท่านไปยังไฮไลท์เด็ด คามิโคจิ หุบเขาในฝันที่อยู่สูงขึ้นไปทางเหนือของเทือกเขาแอลป์ ญี่ปุ่น เยือน ศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ เสาโทริอิพันต้นแห่งเกียวโต สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าเฮอัน ประตูโทริอิยักษ์สีแดงที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด เดินชิว เมืองเก่าทาคายาม่า ฉายา Little Kyoto ณ ถนนซันมาจิซูจิ ศาลเจ้านัมบะยาซากะ ศาลเจ้า… คงไม่ถูกมังครับเฉพาะค่าเช่ารถก็แพงกว่าค่าตั๋วรถไฟ รถบัส(ไม่มีมอไซด์รับจ้าง)อยู่แล้ว ขับรถที่ญี่ปุ่นไม่ง่ายเหมือนบ้านเราครับต้องขับแบบคนญี่ปุ่น เขามีเครื่องหมายเส้นสายจราจร ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อาจจะได้ความสะดวกสบาย คือปไตามทางที่เราอยากจะไป… บริษัท Mitsui Fudosan Retail Management Co.LTD ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ข้อกำหนด รายละเอียด ระยะเวลา สิทธิประโยชน์ และยกเลิกรายการส่งเสริมการขายนี้ โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 30 วันก่อนการมีผลใช้บังคับ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นที่ไม่อาจแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ และในกรณีข้อพิพาทให้ถือคำตัดสินของ บริษัท Mitsui Fudosan Retail Management Co.LTD.
สกุลเงินที่ญี่ปุ่นใช้คือ เยน เหรียญที่ใช้กันมี 6 แบบ คือ 500, 100, 50, 10, 5 และ 1 เยน ธนบัตรมี four แบบ คือ 10,000, 5,000, 2,000 และ 1,000 เยน แต่ธนบัตรมูลค่า 2,000 เยน จะไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นัก เพราะว่าเป็นธนบัตรรุ่นที่ทำออกมาเมื่อปี 2000 เป็นการฉลองเข้าสู่ทศวรรษใหม่ อย่างไรก็ตาม แบงก์ชนิดนี้ถูกจำหน่ายโดยธนาคารต่างประเทศ จึงมีแต่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่นำมาใช้ ถ้าหากนำไปใช้ซื้อของหรือจ่ายค่ารถแล้วเขาไม่รับ ก็ไม่ต้องแปลกใจไป แต่ตามสถานที่ใหญ่ ๆ หรือสถานที่ราชการเขารับแบงก์ชนิดนี้อยู่ แต่ทางที่ดีอย่าแลกเป็นแบงก์ 2,000 มาแต่แรกดีกว่า สำหรับเหรียญที่ใช้กันจะมี three เหรียญเงินประกอบไปด้วย เหรียญมูลค่า 500, one hundred และ 50 ส่วนเหรียญทองแดง มูลค่า 10 และ 5 เยน เหรียญ. จะเห็นได้ว่าสามารถกำหนดงบประมาณในการเที่ยวได้ตามสไตล์ของแต่ละคนจริงๆ ถ้าอยากเที่ยวแบบประหยัดก็เลือกตั๋วเครื่องบินและที่พักที่ถูกที่สุด งบเที่ยว four วัน 3 คืน อาจจะประมาณ forty eight,000 บาท ส่วน 5 วัน 4 คืน น่าจะประมาณ fifty two,000 บาท (ถ้าซื้อตั๋วราคาโปรโมชั่นได้ไม่รวมค่าซื้อของและของฝาก) แต่ถ้าเอาแบบสบายๆก็เต็มที่ครับ บริการและที่นอน สำหรับ 5 วัน four คืน ที่ฟุ่มเฟือยกว่านั้น ไม่ควรเกิน 45,000 บาท (ไม่รวมค่าช้อปปิ้งและของฝาก) แต่ถ้าจัดงบและเตรียมให้เต็มที่ รับรองว่า มีเงินเผื่อฉุกเฉินอย่างน้อย 10,000 บาท และมีสวัสดิการดีๆ บัตรเครดิต. อุปกรณ์ไฟฟ้านับว่าสำคัญมาก ลองจินตนาการดูว่าถ้าไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์หรือกล้องถ่ายรูปได้นั้น ชีวิตของนักท่องเที่ยวจะเป็นอย่างไรล่ะ ดังนั้น ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรรู้ กระแสไฟฟ้าที่ญี่ปุ่นในเมือง Osaka จะใช้อยู่ที่ one hundred โวลต์ 60 Hz ส่วนในกรุงโตเกียวและทางทิศตะวันออกจะใช้ one hundred โวลต์ 50 Hz เต้ารับเป็นชนิด 2 รู สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกาสามารถเสียบใช้งานได้ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้ารุ่นเก่ามากอาจจะไม่สามารถใช้งานด้วยกันได้ จึงต้องเตรียม Adaptor มาด้วย. และอีกวิธีที่ประหยัดงบได้มากเลยก็คือพกอาหารจากเมืองไทยไปด้วย เช่นบะหมี่สำเร็จรูปหรืออาหารซองทั้งหลายซึ่งช่วยได้มากในมื้อที่เบื่ออาหารญี่ปุ่นแถมประหยัดแบบสุดๆเหลือเงินไว้ชอปปิ้งได้เยอะเลย . ที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีภัยทางธรรมชาติค่อนข้างรุนแรงอย่าง พายุไต้ฝุ่นหรือสึนามิ ดังนั้นควรเช็คสภาพอากาศที่ญี่ปุ่นก่อนเดินทางเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองนะครับ เช็คสภาพอากาศได้ที่ Accuweather.com ค่อนข้างแม่นยำและเช็คล่วงหน้าได้ 25 วัน. คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จะมีแต่ในเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้นที่พอมีคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้น ก่อนเดินทางควรศึกษาภาษาญี่ปุ่นก่อนนิดหน่อย เช่น ประโยคที่จำเป็นต้องพูดเพื่อขอความช่วยเหลือ การสั่งซื้ออาหาร รวมถึงการกล่าวทักทาย คำขอบคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคุณเอง ขนาดป้ายบอกทาง หรือข้อมูลต่าง ๆ ก็มีแต่ตัวคันจิเต็มไปหมด ทั้งนี้ การถามหาข้อมูลจากคนญี่ปุ่นจึงเป็นทางออกเดียวที่พอจะทราบข้อมูลบ้าง.